วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
บาร์เซโลน่า 5-0 รีล มาดริด (ลาลีกา สเปน)
เบรเมน 3-0 ซังต์ เพาลี (บุนเดสลีกา)
บาเลนเซีย 2-1 อัลเมเรีย (ลาลีกา สเปน)
ปาแลร์โม่ 3-1 โรม่า (กัลโช่ เซเรีย อา)
เจ้าถิ่นเปิดบ้านรับการมาเยือนจากโรม่า เกมส์ดำเนินจนถึงนาทีที่ 20 เจ้าถิ่นก็ขึ้นนำจาก มิคโคลี่ หลังจากเสียประตูโรม่าก็พยามาต่อบอลหาจังหวะทำประตู แต่ก็ยังไม่สำเร็จ จนมาถึงครึ่งหลังในนาทีที่ 61 จากอิลิซิช โรม่ายิ่งบุกหนักเหมือนยิ่งเปิดโอกาสให้เจ้าถิ่นได้ทำเกมส์สวนกลับและก็เป็นประตูที่ 3 จาก อันโตนิโอ โนเชริโน่ แต่ในนาทีสุดท้ายต๊อตติก็ยิงตีไข่แตกให้โรม่า บุกมาแพ้ไป 3-1
วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
อินเตอร์ มิลาน 5-2 ปาร์ม่า (กัลโช่ เซเรีย อา)
นิวคาสเซิ่ล 1-1 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
เริ่มเกมส์เพียง 6 นาทีเจ้าบ้านขึ้นนำเร็วเมื่อ เชลซีพลาดเสียบอลในแดนกลาง และเป็นจังหวะสวนทันทีของเจ้าถิ่น จากการยิงของ แคร์โรลล์ แต่เชลซีก็บุกกดดันหนักและมาได้ลูกตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรกจาก ซาโลมง กาลู ครึ่งหลังเกมส์ยังสูสีกันแม้ว่าทีมเยือนจะมีโอกาสมากกว่าก็ตาม ในนาทีที่ 76 ดร็อกบายิงบอลเข้าประตูไป แต่กรรมการเป่าเป็นลูกแฮนด์บอลตั้งแต่จังหวะแรก หลังจากนั้นไม่มีใครทำประตูได้ ผลเสมอทำให้เชลซีต้องเป็นแค่รองจ่าฝูงและมีแต้มตามหลังแมนยู 2 แต้ม
ท๊อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 2-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
หงส์แดงลิเวอร์พูลเจองานหนักเมื่อต้องมาพบกับไก่เดือยทองในช่วงที่ท๊อปฟอร์ม แต่เกมส์โดยรวมสูสีกันมาก ทั้งสองฝ่ายต่างมีจังหวะและโอกาสหวาดเสียว แต่แล้วก่อนหมดเวลาครึ่งแรกเพียง 3 นาทีเจ้าถิ่นก็เสียประตูจากการทำประตูของ มาร์ติน สเคอร์เทล จบครึ่งแรกลิเวอร์พูลนำ 1-0 เริ่มครึ่งหลังมา เจ้าบ้านพยายามโหมบุกเพื่อหวังตีเสมอ แล้วในที่สุดนาทีที่ 65 ก็เป็น สเคอร์เทลคนเดิมที่ทำประตูเพิ่ม แต่ประตูที่ได้เพิ่มกลับเป็นของสเปอร์ เพราะดันสกัดลูกเข้าประตูตัวเอง แล้วในช่วงทดเจ็บ อารอน เลนน่อนก็ทำให้แฟนบอลหงส์แดงเศร้าไปตามๆกัน เมื่อหลุดเข้าไปยิงผ่านตัวเรน่า ให้เจ้าบ้านเฉือนชนะไป 2-1 ทำให้สเปอร์ขึ้นไปอยู่ที่ 5 ของตารางคะแนน
วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 7-1 แบล๊คเบิร์น (พรีเมียร์ลีก)
วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
พานาธิไนกอส 0-3 บาร์เซโลน่า (ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก)
ท๊อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 3-0 แวร์เดอร์ เบรเมน (ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก)
เกมส์ที่ 5 ในรอบแบ่งกลุ่มศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก นัดนี้ สเปอร์กำลังฟอร์มสดมากๆ เปิดบ้านถล่มทีมเจ้านกนางนวลจากเยอรมันไป 3-0 โดยเริ่มเกมส์มาเพียง 6 นาทีเจ้าบ้านก็ขึ้นนำจากการทำประตูของยูเนส กาบูล และมาได้ประตูที่ 2 ในช่วงทดเวลาครึ่งแรกจาก ลูก้า โมดริช กระดกบอลข้ามหัวกองหลังแล้วซัดเข้าไป่อย่างสวยงาม ครึ่งหลังเกมส์ยังคงเป็นของเจ้าถิ่นและมาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ เฟลิกซ์ โครส ไปเกี่ยวโมดริชในเขตโทษ แกเร็ธ เบลรับหน้าที่สังหาร แต่ ทิม วีเซ่เซฟได้ง่ายๆ ทำให้ทีมพลาดโอกาสขึ้นนำ 3-0 แต่แล้วในนาทีที่ 79 สเปอร์ก็ได้ลูกที่ 3 จนได้จากปีเตอร์ เคร้าช์ จบเกมส์ สเปอร์เก็บ 3 แต้มพร้อมผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ
กลาสโกว์ เรนเจอร์ส 0-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก)
เกมส์นี้แมนยูต้องการเพียงแค่ 1 แต้มก็จะสามารถเข้ารอบต่อไปได้ ท่านเซอร์จึงจัดทัพให้แผงหลังดาวรุ่งได้ลงมาโชว์ฝีมือบ้าง เกมส์ในครึ่งแรกเป็นของทีมเยือนซะเป็นส่วนใหญ่ แต่เจ้าบ้านก็มีโอกาสเสียวบ้างแต่จบ 45 นาที ยังเสมอกัน 0-0 ครึ่งหลังเกมส์ก็ยังคงเป็นของทีมผีแดงที่ครองบอลได้ดีกว่าและน่าจะขึ้นนำในหลายจังหวะ แต่แล้วก่อนหมดเวลาแค่ 3 นาที แมนยูก็ได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ฟาบิโอเติมเกมส์รุกเข้ามาโหม่งในเขตโทษของเรนเจอร์ แต่โดนเนย์สมิธเตะเข้าเต็มอก กรรมการไม่ลังเลให้แมนยูได้จุดโทษ และก็เป็นรูนนี่ที่สังหารแมนยู เอาชนะไป 1-0 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นที่แน่นอน
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
บาเยิร์น มิวนิค 3-0 เนิร์นแบร์ก (บุนเดสลีกา)
ฟอร์มบาเยิร์น ร้อนแรงมากโดยเฉพาะ มาริโอ โกเมซ ซึ่งซัดไปแล้ว 5 ประตูในซีซั่นนี้ มาเกมส์นี้เริ่มเพียง 10 นาที โกเมซก็แผลงฤทธิ์ อีกเมื่อ ดานิเยล ปรานยิช จ่ายเข้ากลาง โกเมซยิงเข้าไปง่ายๆ หลังจากนั้นเกมส์ก็ยังเป็นเจ้าบ้านที่ทำเกมรุกได้ดีกว่าเยอะและมีโอกาสได้ประตูที่สองอีกหลายครั้ง จนกระทั่งกว่าจะได้ประตูที่สองต้องรอจนถึงนาทีที่ 57 จากลูกจุดโทษจากฟิลิปป์ ลาห์ม และลูกที่ 3 ในนาทีที่ 75 จากโกเมซคนเดิม จบ 90 นาที เสือใต้เก็บ 3 แต้ม ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 6 โดยมีแต้มตาม ดอร์ทมุนด์ จ่าฝูงถึง 12 แต้ม
อินเตอร์ มิลาน 0-1 เอซี มิลาน (กัลโช่ เซเรีย อา)
สปอร์ติ้ง กิฆอน 0-1 รีล มาดริด (ลาลีกา สเปน)
เชลซี 0-3 ซันเดอร์แลนด์(พรีเมียร์ลีก)
เริ่มเกมส์เชลซีทำเกมส์ได้เหนือกว่าซันเดอร์แลนด์เล็กน้อย ในครึ่งแรกเชลซีมีโอกาสสร้างความหวาดเสียวให้ผู้มาเยือนบ้าง แต่ไม่เป็นประตู แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บทีมจากแดนอีสานก็ช็อกแฟนบอลเจ้าถิ่นเมื่อ โอนูโอฮา ตัดบอลได้แล้วเลี้ยงบอลหลบ ผู้เล่นเชลซีถึง 3 คน หลุดเข้าไปยิงหักมุมผ่านตัว ปีเตอร์ เช็ก ซันเดอร์แลนด์ขึ้นนำ 1-0 เริ่มครึ่งหลัง เชลซีบุกหนักหวังทวงประตูคืน แต่เป็นทีมเยือนที่สามารถบวกสกอร์เพิ่มจาก อซาโมอาร์ กียาน ในนาทีที่ 52 แล้วทีมแมวดำก็ฝังสิงห์บลูสนิทเมื่อ แอชลีย์ โคล จ่ายคืนหลัง แต่ถูกเวลเบ็ก ตัดบอลแปสวนตัว เช็กเข้าไปง่ายๆ จบเกมส์ ซันเดอร์แลนด์สร้างเซอร์ไพรส์ถล่มเชลซีไป 0-3 แต่เชลซียังนำเป็นจ่าฝูง เพราะมีแต้มห่างจากที่สองอยู่ 2 แต้ม
ยูเวนตุส 1-1 โรม่า (กัลโช่ เซเรีย อา)
หากทีมม้าลายเก็บชัยได้ในนัดนี้จะทำให้ทีมขึ้นมาอยู่อันดับ2 ก่อน เพราะอีกหลายทีมมีคิวเตะในวันรุ่งขึ้น เปิดเกมส์มาในครึ่งแรกเป็นเจ้าถิ่นที่ครองเกมส์ได้ดีกว่าเล็กน้อย และมาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 35 จากลูกวอลเลย์สุดสวยของ วินเชนโซ่ ยาควินต้า แต่หมาป่าแห่งกรุงโรมก็มาได้ลูกโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในครึ่งแรก ต๊อตติ ยิงเข้าไปให้สกอร์กลับมาเสมอกันอีกครั้ง เปิดครึ่งหลังมา ทั้ง 2 ทีมสู้กันอย่างสนุก แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดที่สามารถบวกสกอร์ได้ จบ 90 นาทีแบ่งแต้มกันไป
โวล์ฟบวร์ก 2-2 ชาลเก้(บุนเดสลีกา)
โวล์ฟบวร์กเปิดบ้านเสมอกับ ชาลเก้สุดมันส์ 2-2 ซึ่งได้ประตูตั้งแต่นาทีที่11 จากกราฟิเต้ และ นาทีที่33 จาก เอดิน เซโก 2 กองหน้าของทีม แต่ทีมเยือนไม่ยอมแพ้ อีก 8 นาทีต่อมาก็ได้ประตูตีไข่แตกจาก เอดู ครึ่งหลังกลับเป็นชาลเก้ที่ทำเกมส์ได้ดีกว่าและเกือบตีเสมอได้หลายครั้ง จนนาทีที่75 คลาส แยน ฮุนเตลาร์ ก็ยิงเข้าประตูได้สำเร็จแต่จากภาพช้า บอลโดนแขนฮุนเตลาร์ก่อนจะยิงเข้าประตู ผู้เล่นโวล์ฟบวร์กเข้าไปประท้วงผู้ตัดสิน แต่ผู้ตัดสินยืนยันว่าเป็นประตู ถัดมาอีกแค่ 3 นาที เจ้าบ้านต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนจากการที่ อัสคาน เดยาการ์ไปฟาว์ล หลังจากนั้น ชาลเก้หวังจะเก็บ 3 แต้มให้ได้ แต่ครบ 90 นาทีผลออกมาเสมอแบ่งแต้มกันไป
ไกเซอร์สเลาเทิร์น 3-3 สตุ๊ตการ์ท(บุนเดสลีกา)
แอตเลติโก มาดริด 3-0 โอซาซูน่า (ลาลีกา สเปน)
เกมส์ในครึ่งแรกเป็นเจ้าบ้านที่ครองเกมส์ได้เป็นส่วนใหญ่ แล้วเจ้าบ้านก็ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการซ้ำของดีเอโก ฟอร์ลัน ดาวยิงของทีม ทีมเยือนเกือบได้ประตูตีเสมอ แต่ผู้รักษาประตูสามารถเซฟไว้ได้ และทีมตราหมีก็มาได้ประตูที่ 2 ในนาทีที่ 40 จาก กุน อเกวโร่ โหม่งเข้าไปจากการเปิดของฟอร์ลัน กลับมาเล่นในครึ่งหลังเกมส์ของทีมเยือนยังไม่ดีขึ้นแถมยังต้องเสียตัวผู้เล่นในนาทีที่ 60 เมื่อนาโช่ มอนเรอัล ไปทำแฮนด์บอลจึงถูกใบเหลืองใบที่สองเป็นใบเหลืองแดง เจ้าบ้านได้เปรียบตัวผู้เล่นเพียง 10 นาทีก็ทิ้งห่างเป็น 3-0 จาก ฟอร์ลันคนเดิมจบ 90 นาทีแอตเลติโก มาดริด เก็บ 3 แต้มสบายๆ
บาร์เซโลน่า 3-1 บียาร์รีล (ลาลีกา สเปน)
สโต๊ค ซิตี้ 2-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ ลีก)
ครึ่งแรกเป็นฝ่ายสโต๊คที่มีโอกาสมากกว่าลิเวอร์พูลและครองเกมส์ได้มากกว่าแต่ไม่สามารถจบสกอร์ได้ครึ่งแรกจึงเสมอกัน 0-0 แล้วนาทีที่56 แฟนหงส์แดงก็เซ็งกันไป เมื่อสโต๊ค ได้ประตู จากลูกชุลมุนแถวหน้าประตู จังหวะสุดท้าย ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ จิ้มบอลเข้าไปตุงตาข่าย ลิเวอร์บุกหนักหมายทวงประตูคืนแต่ก็เกือบเสียลูกที่สองอีก จนกระทั่งช่วงทดเจ็บ เจอร์ราร์ดวางบอลยาวแต่ถูกตัดเกมส์ได้แล้วโต้กลับมาให้ เคนวีน โจนส์ ลากบอลเข้าเขตโทษ แล้วซัดผ่านมือเรน่า ให้เจ้าบ้านเอาชนะหงส์แดงไป 2-0
ท๊อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 4-2 แบล๊คเบิร์น (พรีเมียร์ ลีก)
สเปอร์เปิดบ้านต้อนรับกุหลาบไฟ เริ่มเกมส์มาได้เพียง 16 นาที เจ้าบ้านก็ขึ้นนำก่อนจากลูกโหม่งของ แกเรธ เบลล์ สเปอร์น่ามีโอกาสทำสกอร์เพิ่มจากการได้จุดโทษ แต่พาฟลูเชนโกยิงออกไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก่อนหมดเวลา 3 นาทีก็ได้ประตูที่ 2 จนได้ จากพาฟลูเชนโก ครึ่งหลังเกมส์ยังเป็นของเจ้าบ้าน นาทีที่ 63 ก็ได้ประตูนำห่างเป็น 3-0 จากปีเตอร์ เคร้าช์ และนาทีที่ 76 เบล ก็ทำประตูที่สองของตัวเองได้ ถัดมาอีก 4 นาที ทีมเยือนก็ได้ประตูตีไข่แตกจาก เดวิด ดันน์ แบล๊คเบิร์นยังคงบุกแล้วก็ได้ประตูที่ 2 ก่อนหมดเวลาเพียงนาทีเดียว สเปอร์สเก็บ3 แต้มไปอย่างสุดมัน
วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
แอสตัน วิลล่า 2-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ ลีก)
ก่อนเกมส์นี้ปิศาจแดงมีแต้มตามหลังเชลซี ถึง 4 แต้ม จึงต้องการชัยชนะนัดนี้เพื่อไม่ให้คู่แข่งทิ้งห่างมากเกินไปนัก รูปเกมส์ในครึ่งแรก แมนยู มีโอกาสได้ประตูแต่ไม่สามารถทำได้สำเร็จ จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-0 เริ่มครึ่งหลังเป็นฝ่ายเจ้าบ้านมีโอกาสขึ้นนำแต่ก็ยิงชนเสาไปถึง 2 ครั้ง แต่แล้วความพยายามของวิลล่าก็บรรลุผลเมื่อกองหลังแมนยู ไปสกัดกองหน้าวิลล่าล้มในกรอบเขตโทษ กรรมการเป่าเป็นลูกจุดโทษทันที เป็นแอชลีย์ ยัง รับหน้าที่สังหารให้วิลล่าขึ้นนำแมนยู 1-0 ในนาทีที่ 72 ถัดมาอีกเพียง 4 นาที แฟนบอลผีแดงก็ช็อกอีกครั้งเมื่อวิลล่าสวนกลับ แล้วดาวนิ่งก็เปิดเข้ากลางประตู อัลไบรตัน ชาร์จเข้าไปง่ายๆ วิลล่า นำ 2-0 หลังจากนั้นแมนยูก็โหมบุกอย่างหนักเพื่อทวงประตูคืน แล้วในนาทีที่ 81 มาเคด้าที่ลงมาเป็นตัวสำรองก็ซัดประตูสุดสวยตีไข่แตกได้สำเร็จ แมนยูยังคงบุกหนักแล้วนาทีที่ 85 แฟนแมนยูก็ได้เฮเมื่อนานี่เปิดจากด้านข้าง แล้ววิดิชก็โหม่งย้อนทางให้แมนยูตีเสมอ 2-2 หลังจากนั้นไม่มีใครทำประตูเพิ่ม จบเกมส์แมนยูคว้า 1 แต้มไปแบบหืดขึ้นคอ
วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
ดอร์ทมุนด์ 2-0 ฮัมบูร์ก (บุนเดสลีกา)
วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
เอซี มิลาน 3-1 ปาแลร์โม่ (กัลโช่ เซเรีย อา)
วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
เซบีย่า 2-0 บาเลนเซีย (ลาลีกา สเปน)
ลาซิโอ 0-2 โรม่า (กัลโช่ เซเรีย อา)
สตุ๊ตการ์ท 6-0 เบรเมน (บุนเดสลีกา)
วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
รีล มาดริด 2-0 แอต.มาดริด (ลาลีกา สเปน)
ลิเวอร์พูล 2-0 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2553
แบล๊คเบิร์น 0-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ ลีก)
ก่อนเกมส์นี้ แมนยู สร้างผลงานที่น่าผิดหวัง 3 นัดติดกัน จากเกมส์ที่แพ้บาเยิร์นในนัดแรก แพ้เชลซี และชนะบาเยิร์น แต่ตกรอบแบบไม่น่าเชื่อ แมนยูสร้างโอกาสได้น้อยเมื่อเทียบกับหลายเกมส์ที่ผ่านมา และยังขาดตัวจบสกอร์อย่างรูนี่ย์ที่มีอาการบาดเจ็บ เกมส์นี้จึงทำได้แค่เสมอ 0-0 มีแต้มตามหลังเชลซี 1 แต้มแต่เตะมากกว่า 1 นัด โอกาสคว้าแชมป์ลดน้อยลงเรื่อยๆ
รีล มาดริด 0-2 บาร์เซโลน่า (ลาลีกา สเปน)
ฟิออเรนติน่า 2-2 อินเตอร์ มิลาน (กัลโช่ เซเรีย อา)
แอสตัน วิลล่า 0-3 เชลซี (เอฟเอ คัพ)
วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2553
ลิเวอร์พูล 4-1 เบนฟิก้า (ยูโรป้าลีก)
สตองดาร์ ลีแอซ 1-3 ฮัมบูร์ก (ยูโรป้าลีก)
โวล์ฟบวร์ก 0-1 ฟูแล่ม (ยูโรป้าลีก)
โวล์ฟบวร์กมีโอกาสเข้ารอบมากเมื่อนัดแรกได้ประตูอเวย์โกล์ในนาทีสุดท้าย นัดนี้แค่ชนะ 1-0 ก็จะเข้ารอบ แต่เริ่มเกมส์มาได้เพียง 21 วินาที ฟูแล่มก็บุกมายิงได้จากลูกพลิกบอลเข้าไปยิงอย่างเหนือชั้นของ บ็อบบี้ ซาโมร่า หลังจากได้ประตูขึ้นนำ ก็มีโอกาสจะบวกสกอร์เพิ่มขึ้น แต่เจ้าบ้านก็ไม่ปล่อยให้ทีมเยือนมาบุกกดดันฝ่ายเดียว เกมส์จึงเปิดแลกกันสนุกเพราะเจ้าบ้านต้องยิง 2 เม็ดเพื่อต่อเวลา และ 3 เม็ดเพื่อเข้ารอบ แต่เกมส์ของเจ้าถิ่นไม่ได้เหนือกว่ามากกลับเป็นฝ่ายที่จะเสียประตูเพิ่มมากกว่า จบเกมส์ ฟูแล่มบุกมาเอาชนะในถิ่นของโวล์ฟบวร์กได้ 1-0 เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 3-1 เข้าไปพบกับฮัมบูร์กในรอบต่อไป
วันพุธที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553
บอร์กโดซ์ 1-0 โอลิมปิค ลียง (ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก)
ในเกมส์นี้บอร์กโดซ์ได้กลับมาเล่นในบ้านตนเองซึ่งมีข้อแม้ว่าต้องทำผลห่างประตูอย่างน้อย 2 ประตูขึ้นไปจึงจะเข้ารอบ ซึ่งเกมส์ในครึ่งแรกเป็นฝ่ายเจ้าบ้านบุกกดดันทีมเยือนอย่างหนักกว่าจะประสบผลสำเร็จก็ปาเข้าไปในนาทีที่ 43 จากการยิงของ อาลู ดิร์ยาร่า ครึ่งหลังลียงแก้เกมส์ได้ดี และมีโอกาสตีเสมออยู่หลายครั้ง แต่ยังทำไม่ได้ เมื่อเวลาใกล้หมดลงความกดดันตกเป็นของเจ้าบ้านซึ่งก็มีโอกาสแต่ก็ทำประตูเพิ่มไม่ได้ จบเกมส์ บอร์กโดซ์ชนะ 1-0 แต่ไม่พอต่อการเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย โอลิมปิค ลียงเข้ารอบด้วยผลประตูรวม 3-2 นัดหน้าต้องเจอกับเสือใต้ที่ผ่านแมนยู มาได้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-2 บาเยิร์น มิวนิค (ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก)
วันอังคารที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2553
ซีเอสเคเอ มอสโก 0-1 อินเตอร์ มิลาน (ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก)
บาร์เซโลน่า 4-1 อาร์เซน่อล (ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก)
วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2553
บาร์เซโลน่า 4-1 แอตเลติก บิลเบา (ลาลีกา สเปน)
ชาลเก้ 1-2 บาเยิร์น (บุนเดสลีกา)
บารี่ 0-1 โรม่า (กัลโช่ เซเรีย อา)
วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2553
กายารี่ 2-3 เอซี มิลาน(กัลโช่ เซเรีย อา)
อินเตอร์ มิลาน 3-0 โบโลญญ่า
เบิร์นลีย์ 1-6 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ ลีก)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาขย้ำ เบิร์นลี่ย์ถึงถิ่น 6 ประตูต่อ 1 เริ่มเกมส์แค่เพียง 7 นาที เรือใบสีฟ้าก็ออกนำเจ้าถิ่น ไป 3-0 จาก อเดบายอร์ นาทีที่ 4 , เบลลามี่ นาทีที่ 5 , เตเวซ นาทีที่ 7 และในนาทีที่ 20 ก็มาได้เพิ่มจากลูกโขกของ วิเอร่า ช่วงท้ายเกมส์ในครึ่งแรก อเดบายอร์ก็บวกสกอร์เพิ่มอีก 1 เม็ด จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ออกนำเจ้าถิ่น 5-0 เริ่มครึ่งหลังทีมเยือนยังไม่เพลาการบุก และมาได้ประตูเพิ่มจาก แวงซองต์ กอมปานีในนาทีที่ 68 และกว่าที่ทีมเจ้าถิ่นจะได้เฮก็ปาเข้าสู่นาทีที่ 71 จากการยิงสวน เช กิฟเว่น อย่างงดงาม จบเกมส์เจ้าถิ่นแพ้หมดรูปไป 6-1 ยังต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นต่อไป
อาร์เซน่อล 1-0 วูล์ฟแฮมตัน (พรีเมียร์ลีก)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 เชลซี (พรีเมียร์ ลีก)
เกมส์นี้เป็นเกมส์ที่ตัดสินแชมป์อย่างไม่เป็นทางการของศึกพรีเมียร์ ลีก เมื่อแมนยู ทีมอันดับ 1เปิดรัง โอล์ดแทรฟฟอร์ดรับการมาเยือนของสิงห์บลู เชลซี ทีมอันดับ 2 ถ้าแมนยูชนะนัดนี้จะมีแต้มทิ้งห่างเชลซี เป็น 4 แต้ม แต่เริ่มเกมส์มาได้ 20 นาทีทีมเยือนกลับเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อน 1-0 จาก โจ โคล แต่เจ้าบ้านก็มีโอกาสสวนบ้างแต่ยังไม่เป็นสกอร์ จบครึ่งแรกเชลซีนำ 1-0 เริ่มครึ่งหลังมาเจ้าบ้านบุกกดดันทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ จึงถูกเชลซียิงเพิ่มจากจังหวะล้ำหน้าของ ดร็อกบา แต่ผู้ตัดสินไม่ยกธง ดร็อกบา จึงยิงให้เชลซีนำห่างเป็น 2-0 แต่อีก 2 นาทีต่อมา เจ้าถิ่นก็ตีไข่แตกได้จากจังหวะบอลมาโดนตัว มาเคด้า เข้าประตู หลังจากนั้นแมนยู ก็พยายามกดดันหวังประตูตีเสมอให้ได้ แต่จบ 90 นาที แมนยูจึงแพ้ในบ้านตัวเองแก่ เชลซี ทำให้เชลซีขึ้นนำเป็นจ่าฝูงมีคะแนนมากกว่าแมนยู 2 แต้ม โดยที่ทั้ง 2 ทีมมีโปรแกรมการเตะอีกทีมละ 5 นัด
วันศุกร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2553
บาเลนเซีย 2-2 แอตเลติโก มาดริด (ยูโรป้าลีก)
วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553
ฟูแล่ม 2-1 โวล์ฟบวร์ก (ยูโรป้าลีก)
อินเตอร์ มิลาน 1-0 ซีเอสเคเอ มอสโก(ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก)
อาร์เซน่อล 2-2 บาร์เซโลน่า (ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก)
วันอังคารที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2553
โอลิมปิค ลียง 3-1 บอร์กโดซ์ (ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก)
ศึกสายเลือดในถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก เป็นฝ่ายเจ้าบ้านที่สามารถเก็บชัยได้ในนัดแรก 3-1 รูปเกมส์ค่อนข้างสนุกเปืดเกมส์รุกสู้กันอย่างไม่กลัว
บาเยิร์น มิวนิค 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก)
วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553
แอตเลติก บิลเบา 4-3 ราซิ่ง ซานตาเดร์ (ลาลีกา สเปน)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0 วีแกน (พรีเมียร์ลีก)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มเกมส์ครึ่งแรกไม่ค่อยได้เรื่องซักเท่าไหร่ จนช่วงเวลาหมดครึ่งแรกแฟนเจ้าถิ่นก็โห่ที่ทีมตัวเองเล่นไม่เอาไหน แต่เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 11 นาที วีแกนก็เหลือตัวผู้เล่นเพียง 10 คนเท่านั้นเมื่อ แกรี่ คัลด์เวลล์เสียบสองเท้าเข้าใส่ เตเวซอย่างน่าเกลียด หลังจากนั้นเกมส์จึงตกเป็นของเจ้าบ้าน แต่กว่าจะได้ประตูต้องรอไปจนถึงนาทีที่ 72 จาก คาร์ลอส เตเวซ และหลังจากนั้นอีก 3 นาที เตเวซก็บวกสกอร์ให้ตัวเองและ แมน ซิตี้ หนีห่างเป็น 2-0 แล้วเตเวซก็ทำแฮตทริกได้ในนาทีที่ 84 จบเกมส์แมนซิตี้ ได้ 3 แต้ม แซง ลิเวอร์พูลกลับไปอยู่อันดับที่ 5 อีกครั้ง
เอซี มิลาน 1-1 ลาซิโอ (กัลโช่ เซเรีย อา)
ฟิออเรนติน่า 4-1 อูดิเนเซ่ (กัลโช่ เซเรีย อา)
วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2553
ยูเวนตุส 2-1 อตาลันต้า (กัลโช่ เซเรีย อา)
บียาร์รีล 3-0 เซบีย่า (ลาลีกา สเปน)
บียาร์รีล รับการมาเยือนของ เซบีย่า ทีมที่เพิ่งเปลี่ยนผู้จัดการใหม่ เริ่มเกมส์ไปเพียง 4 นาที เจ้าถิ่นก็ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก จูเซปเป้ รอสซี่ และมาบวกสกอร์เพิ่มได้อีกครั้งในนาทีที่ 17 เกมส์เกือบจะเป็นของเจ้าถิ่น แต่ทีมเยือนก็มีโอกาสลุ้นประตูบ้างแต่ไม่บ่อยนัก ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในครึ่งหลัง บียาร์รีลก็ได้ประตูตอกย้ำชัยชนะ จบเกมส์ เจ้าถิ่นชนะ 3-0
รีล มาดริด 3-2 แอตเลติโก มาดริด (ลาลีกา สเปน)
ลิเวอร์พูล 3-0 ซันเดอร์แลนด์ (พรีเมียร์ลีก)
ลิเวอร์พูลเปิดบ้านถลุง ซันเดอร์แลนด์ไปแบบสบายเท้า 3-0 โดยกองหน้าตัวเก่ง ตอเรส ยิงคนเดียว 2 เม็ด และ จอห์นสันอีก 1 เม็ด ทำให้คว้า 3 แต้มแซงแมนซิตี้ ขึ้นเป็นอันดับ 5
วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2553
เลเวอร์คูเซ่น 0-2 ชาลเก้ (บุนเดสลีกา)
เกมส์นี้ถ้าใครชนะจะขึ้นนำจ่าฝูงเพราะคู่หัวค่ำ บาเยิร์นดันแพ้ให้กับสตุ๊ตการ์ท เริ่มเกมส์ไปเพียง 11 นาที ชาลเก้ก็ขึ้นนำจากการทำประตูของ คูรานี่ แล้วคูรานี่ก็บอกสกอร์ให้กับตัวเองอีกครั้งในนาทีที่ 28 หลังจากนั้นทั้ง 2 ทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบ 90 นาที ชาลเก้คว้า 3 แต้มพร้อมแซงเสือใต้ขึ้นนำจ่าฝูง
บาร์เยิร์น มิวนิค 1-2 สตุ๊ตการ์ท (บุนเดสลีกา)
บาร์เยิร์น พักผู้เล่นบางตำแหน่งเพื่อความสดเพราะกลางสัปดาห์ต้องเจอกับ แมนยู แต่บาร์เยิร์นก็ขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 32 แต่ก่อนจบครึ่งแรกทีมม้าขาวก็ได้เฮเมื่อ คริสเตียน เทรช ยิงแฉลบบาดสตูร์เบอร์เปลี่ยนทางเสมอเป็น 1-1 แต่เริ่มครึ่งหลังเพียง 5 นาทีทีมเยือนกลับได้ประตูอีกครั้ง ทำให้เสือใต้พ่าย 2 นัดติดกันแต่ยังคงเป็นที่ 1 เพราะทีมอันดับ 2 และ3 จะเตะกันเองเป็นคู่ดึก
โรม่า 2-1 อินเตอร์ มิลาน (กัลโช่ เซเรีย อา)
โรม่า ทีมอันดับ 2 ในตารางศึกกัลโช่ เซเรีย อา เปิดบ้านต้อนรับทีมอันดับ 1 อย่างอินเตอร์ มิลาน อย่างสุดมันส์ เริ่มเกมส์ไปเพียง 17 นาที โรม่าก็ได้ประตูจาก รอสซี่ หลังจากนั้นก็ผลัดกันบุกอย่างสนุก จบครึ่งแรกสกอร์ยังเป็นเจ้าถิ่นนำ 1-0 เริ่มครึ่งหลังอินเตอร์บุกหนัก หวังจะตีเสมอให้ได้และมาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 66 จาก มิลิโต้ แต่อีกแค่ 7 นาทีโรม่าก็หนีไปอีกจากการทำประตูของ ลูก้า โทนี่ ก่อนหมดเวลาอินเตอร์บุกกดดันจะเอาประตูตีเสมอให้ได้ แต่ก็ทำได้ดีที่สุดแค่นั้น จบเกมส์โรม่าได้เพิ่มอีก 3 คะแนนลดช่องว่างเหลือเพียง 1 คะแนนเท่านั้น
รีล มายอร์ก้า 0-1 บาร์เซโลน่า (ลาลีกา สเปน)
เบอร์มิงแฮม 1-1 อาร์เซน่อล (พรีเมียร์ลีก)
อาร์เซน่อลหวังเก็บ 3 แต้มเพื่อให้ตัวเองยังอยู่ในเส้นทางของการลุ้นแชมป์ แต่ว่าในครึ่งแรกอาร์เซน่อลยังไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ทำให้เสมอกันไป 0-0 ในครึ่งเวลาแรก แต่กว่าที่จะมีการทำประตูก็ผ่านเข้าสู่นาทีที่ 81 จากการส่องจากหน้ากรอบเขตโทษของ ซามีร์ นาสรี่ เกมส์ทำท่าจะจบลงด้วยชัยชนะของอาร์เซน่อล แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เควิน ฟิลลิปส์ กองหน้าตัวเก๋าก็ส่งบอลผ่านอัลมูเนีย ให้เบอร์มิงแฮมตีเสมอได้สำเร็จ
โบลตัน 0-4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
เกมส์นี้แมนยูพัก เวนย์ รูนี่ย์ เพราะกลางสัปดาห์ต้องเจองานหนักเมื่อต้องเผชิญกับ บาเยิร์น มิวนิค แต่การพักศูนย์หน้าร่างอวบก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผีแดง สามารถบุกไปชนะ โบลตันได้ 4-0 จากการทำประตูของ เบอร์บาตอฟ 2 เม็ด ดาร์รอน กิ๊บสัน 1 เม็ด และกองหลังโบลตันทำเข้าประตูตัวเอง ทวงบัลลังก์จ่าฝูงคืน
เชลซี 7-1 แอสตัน วิลล่า (พรีเมียร์ลีก)
เชลซีเปิดบ้านถล่มแอสตัน วิลล่า เละ 7 ประตูต่อ 1 โดย แฟร้งค์ แลมพาร์ด ยิงคนเดียว 4 ประตู ฟลอร็องต์ มาลูด้า 2 ประตู และ โซโลมง กาลู 1 ประตู แอสตันวิลล่า ได้ประตูจาก ยอห์น คาริว จบ 90 นาทีเชลซีขึ้นเป็นจ่าฝูงชั่วคราว เพราะ แมนยู เตะเป็นคู่ดึก
วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2553
โบคุ่ม 1-2 แฟร้งเฟิร์ต (บุนเดสลีกา)
โบคุ่มเปิดบ้านรับแฟร้งเฟิร์ต เจ้าบ้านต้องการ 3 แต้มเพื่อหนีโซนตกชั้น แต่ต้องมาเจอแฟร้งเฟิร์ต ที่นัดก่อนเอาชนะบาเยิร์น มิวนิคไปได้ เริ่มเกมส์ไปเพียง 10 นาที โบคุ่มก็ขึ้นนำลูกแปของ เลวิส โฮล์ทบี้ แต่แฟร้งเฟิร์ตก็ตามตีเสมอได้ในนาทีที่ 29 และได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 64 หมดเวลา 90 นาที แฟร้งเฟิร์ตบุกเก็บชัยสำเร็จ
วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553
นาโปลี 3-1 ยูเวนตุส (กัลโช่ เซเรีย อา)
เคตาเฟ่ 2-4 รีล มาดริด (ลาลีกา สเปน)
วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2553
บาร์เซโลน่า 2-0 โอซาซูน่า (ลาลีกา สเปน)
โบโลญญ่า 0-2 โรม่า (กัลโช่ เซเรีย อา)
ปาร์ม่า 1-0 เอซี มิลาน (กัลโช่ เซเรีย อา)
อินเตอร์ มิลาน 3-0 ลิวอร์โน่ (กัลโช่ เซเรีย อา)
อินเตอร์ มิลาน เปิดบ้านรับการมาเยือนของลิวอร์โน่ ในทีมมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นหลายตำแหน่งด้วยกัน โดยในครึ่งแรกอินเตอร์ มิลานทำเกมส์ได้ดีกว่า และนำไปก่อน 2-0 จากการทำประตูของ ซามูเอล เอโต้ และในครึ่งหลังได้ประตูจาก ดั๊กลาส ไมค่อน จบเกมส์เก็บ 3 แต้ม ทิ้งอันดับ 2 อย่างโรม่า และ เอซี มิลาน ห่างเป็น 4 แต้ม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 เอฟเวอร์ตัน (พรีเมียร์ลีก)
แมนซิตี้เปิดบ้านรับการมาเยือนของเอฟเวอร์ตันซึ่งเจ้าบ้านถ้าชนะนัดนี้จะแซงสเปอร์สขึ้นเป็นที่ 4 แต่เจ้าบ้านกลับไม่สามารถทำได้อย่างนั้น เพราะในเกมส์นี้เอฟเวอร์ตัน เล่นได้ดีจริง จึงบุกมาเก็บ 3 แต้มได้
ปอร์ทสมัธ 0-5 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
เชลซีเก็บ 3 แต้มได้จากการบุกมาถล่มเจ้าถิ่น ปอร์ทสมัธ ซึ่งน่าจะได้ตั๋วกลับไปเล่นในลีกแชมเปี้ยมชิพในฤดูกาลหน้าแน่นอน ถึง 0 ประตูต่อ 5 และกลับขึ้นรั้งเป็นอันดับ 2 แซงหน้าอาร์เซน่อลอีกครั้ง
วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
ศึกวันแดงเดือดนัดนี้เริ่มเกมส์เพียง 5 นาที ทีมเยือนกลับขึ้นนำก่อนจากลูกโขกของกองหน้าตัวเก่ง เฟอร์นันโด ตอเรส หลังจากนั้น แมนยูก็พยายามเริ่มเกมส์ของตัวเองใหม่ จนกระทั่งในนาทีที่ 12 ก็ได้ลูกจุดโทษจากการทำฟาวล์ของ มาสเคราโน่ดึง วาเลนเซียในกรอบเขตโทษ รูนี่ย์รับหน้าที่สังหาร เรย์น่า ประตูลิเวอร์พูลพุ่งถูกทาง แต่ลูกบอลเป็นใจกระเด็นมาเข้าทางรูนี่ย์ ซัดเข้าทำให้เสมอ 1-1 ถัดมาในนาทีที่ 60 แฟนเจ้าถิ่นก็ได้เฮ เมื่อ ปาร์ค จีซุง โหม่ง เข้าจากการเปิดของ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ จบเกมส์ แมนยูสามารถเก็บ 3 แต้มได้และขึ้นจ่าฝูงอีกครั้ง
เอซี มิลาน 1-1 นาโปลี (กัลโช่ เซเรีย อา)
เอซี มิลานพลาดขึ้นจ่าเมื่อเล่นในบ้าน แต่กลับถูกทีมเยือน นาโปลี ทำประตูออกนำก่อน ในนาทีที่ 14 แต่ยังดีที่กองหน้าจอมเก๋าอย่างอินซากี้ โหม่งตีเสมอให้เจ้าถิ่น ในนาทีที่ 26 และในครึ่งหลัง พลพรรคปีศาจแดงดำก็เดินเครื่องบุกกดดันหวังจะเอาประตูเพิ่ม แต่ก็ไม่สามารถทำได้ รบเกมส์มิลานเป็นอันดับที่ 2 มีแต้มตามหลังจ่าฝูง อินเตอร์มิลานเพียง 1 แต้มเท่านั้น
โวล์ฟบวร์ก 1-5 แฮร์ธ่า เบอร์ลิน (บุนเดสลีกา)
โวล์ฟบวร์กแชมป์เก่าเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมบ๊วย เริ่มเกมส์เพียงแค่ 6 นาที ทีมเยือนก็ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว และอีกเพียง 2 นาที ต่อมาสกอร์ก็ขยับเป็น 2-0 และ 3-0 ในนาทีที่ 26 แต่ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 10 นาที เจ้าถิ่นได้คืนมา 1 ลูก จาก เอดิน เซโก้ แต่พอเริ่มครึ่งหลัง โวล์ฟบวร์กไม่สามารถกลับมาในเกมส์ได้ ถูก แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ยิงอีก 2 เม็ด จบเกมส์แพ้หมดรูปไป 1-5
ฮัมบูร์ก 2-2 ชาลเก้ (บุนเดสลีกา)
ชาลเก้พลาดท่าในการคว้า 3 แต้มเพื่อแซง บาเยิร์น มิวนิค ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง โดยในนัดนี้ชาลเก้โดนเจ้าถิ่นขึ้นนำก่อน 1-0 ก่อนหมดครึ่งแรกเพียง 5 นาที แต่ในครึ่งหลัง ชาลเก้ตามตีเสมอ และแซงขึ้นนำในนาทีที่ 62 และ 67 แต่อีก 10 นาทีต่อมา ฮัมบูร์กก็สามารถตีเสมอได้จากกองหน้าตัวสำรองซึ่งลงมาวาดลวดลายในสนามเพียง 6 นาที จบเกมส์ชาลเก้ คว้า 1 แต้มรั้งอันดับ 2 ซึ่งคะแนนห่างบาเยิร์นเพียง 1 แต้มเท่านั้น
ซาราโกซ่า 2-4 บาร์เซโลน่า (ลาลีกา สเปน)
ลีโอเนล เมสซี่โชว์ฟอร์มเทพกดแฮททริก พาบาร์เซโลน่า บุกถล่ม รีล ซาราโกซ่า ถึงบ้าน 2-4 ทำให้บาร์เซโลน่ามีแต้มเท่าจ่าฝูง รีลมาดริด แต่ผลต่างประตูได้เสียเป็นรอง จึงเป็นอันดับ 2 เท่าเดิม
วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2553
แบล๊คเบิร์น 1-1 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
แฟร้งเฟิร์ต 2-1 บาเยิร์น มิวนิค (บุนเดสลีกา)
เสือใต้พลาดท่าพ่ายแฟร้งเฟิร์ต ทั้งๆที่แค่เพียง 7 นาทีก็ขึ้นนำไปก่อน 1-0 และในครึ่งแรกเกือบจะบวกสกอร์ได้ในหลายจังหวะ แต่ก็ทำได้แค่นั้น ในครึ่งหลังทั้ง 2 ทีมผลัดกันรุกและรับ แต่ก็ยังทำประตูกันไม่ได้ จนกระทั่งนาทีที่ 83 เจ้าถิ่นก็สามารถตีเสมอได้จากกองหน้าดาวรุ่ง ยูเฟล ทีซูมู และก่อนหมดเวลาแค่นาทีเดียวเจ้าถิ่นก็สามารถทำประตูชัยได้จากมาร์ติน เฟนิน ผู้เล่นสำรองอีกคน
วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2553
รีล มาดริด 3-1 สปอร์ติ้ง กิฆอน (ลาลีกา สเปน)
เกมส์นี้รีล มาดริด ยิง 3 ลูกในครึ่งหลัง กลับมาแซงชนะทีมเยือนอย่างสปอร์ติ้ง กิฆอน ซึ่งทีมเยือนได้ประตูนำไปก่อนในนาทีที่ 53 หลังจากนั้นแค่ 2 นาที เจ้าถิ่นก็ได้ลูกตีเสมอ และอีกเพียง 2 นาทีต่อมา ก็แซงขึ้นนำเป็น 2-1 และได้ประตูทิ้งห่างในนาทีที่ 68 จากกอนซาโล่ อิกวาอิน กองหน้าตัวเก่งของทีม
โรม่า 4-2 อูดิเนเซ่ (กัลโช่ เซเรีย อา)
โรม่าเปิดบ้านรับการมาเยือนอูดิเนเซ่ โดยที่เจ้าบ้านขาดตัวหลักหลายตัว แต่ยังดีที่มี ลูก้า โทนี่ และ มีร์โก วูชินิช ซึ่งในนัดนี้ วูชินิช ศูนย์หน้าตัวเก่งของโรม่า สามารถ ทำแฮทริก และ พาโรม่าทำแต้มตามจ่าฝูงเพียง 4 แต้มเท่านั้น
อาร์เซน่อล 2-0 เวสต์แฮม (พรีเมียร์ลีก)
วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553
ฟูแล่ม 4-1 ยูเวนตุส (ยูโรป้า ลีก)
ฟูแล่มเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมดังจากอิตาลี ซึ่งในนัดที่แล้วฟูแล่มแพ้มา 3-1 ในนัดนี้ ต้องต้องเอาชนะให้ได้อย่างน้อย 2 ประตู ซึ่งเมื่อเริ่มไปเพียง 2 นาที ยูเวนตุสกลับขึ้นนำ 1-0 แต่ฟูแล่มก็ตามตีเสมอในอีก 7 นาทีต่อมา และจุดเปลี่ยนของเกมส์อยู่ที่การได้ใบแดงของฟาบิโอ คานาวาโร่ หลังจากนั้นเกมส์จึงตกเป็นของฟูแล่ม ท้ายที่สุดฟูแล่มเข้ารอบด้วยประตูรวม 5-4
บอร์กโดซ์ 2-1 โอลิมเปียกอส (ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก)
นัดที่แล้วโอลิมเปียกอสพ่ายในบ้านตัวเอง 0-1 เพราะฉะนั้นในนัดนี้ มาเยือนบอร์กโดซ์ จึงต้องทำประตูให้มีผลห่าง 2 ลูกขึ้นไป แต่ท้ายที่สุด โอลิมเปียกอสก็ต้องพ่ายไป 2-1 จากการที่เล่น 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 59 บอร์กโดซ์จึงผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยประตูรวม 3-1
บาร์เซโลน่า 4-0 สตุ๊ตการ์ท (ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก)
เกมส์นี้เป็นงานยากของสตุ๊ตการ์ทเนื่องจากในเกมส์ที่แล้วทำได้แค่เสมอกับบาร์เซโลน่าในบ้านของตัวเอง 1-1 ในนัดนี้จึงเป็นงานยากเพราะต้องมาเยือนถึงถิ่น คัมป์นู ของบาร์เซโลน่า เกมส์เริ่มเพียง 13 นาที เจ้าถิ่นก็ได้ประตูแรกจากลูกยิงไกล 20 หลา เข้าประตูไปอย่างสวยงาม หลังจากนั้นเกมส์ก็ตกเป็นของบาร์เซโลน่า ซึ่งในนัดนี้ เมสซี่ ยิงไป 2 ประตู ส่งให้ทีมแชมป์เก่าผ่านเข้าไปรอบ 8 ทีมสุดท้าย